น้ำพริกกะปิปลาทู เป็นเมนูที่คนไทยจำนวนมากชอบทาน เป็นเมนูง่าย ๆ สายลดน้ำหนักก็ทานได้ด้วย แถมยังมีคุณค่าทางอาหารสูงมากเลยทีเดียว สำหรับคนที่ไม่ชอบการทานผัก ลองทานคู่กับน้ำพริกกะปีแล้วจะติดใจ ซึ่งขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก ในบทความนี้รวบรวมรายละเอียดการทำมาบอกต่อ ดังนี้ วิธีทำ น้ำพริกกะปิปลาทู จัดจ้าน ทานอร่อย ทุกคำ ก่อนอื่น ทุกคนก็ต้องหาวัตถุดิบการทำมาก่อน และเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ซึ่งการทำน้ำพริกกะปิต้องมีครกและสากถึงจะทำได้ แล้วในส่วนของรายการวัตถุดิบอื่น ๆ มี ดังนี้ ขั้นตอนการทำ น้ำพริกกะปิ ปลาทู .จัดการล้างวัตถุดิบพวกพริกให้เรียบร้อย และนำครกกับสากออกมาทำความสะอาดก่อน และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ น้ำพริกกะปิ ปลาทู ทานคู่กับไข่เจียวชะอมทำยังไง..? แต่บางคนก็ชอบการทาน น้ำพริกกะปิ ปลาทู คู่กับไข่เจียวชะอม วิธีการทำก็ไม่ยาก ให้นำไข่ไข่หรือขาเป็ดก็ได้ปริมาณตามต้องการมาตกลงชามตีให้ไข่เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ชะอมที่หั่นเป็นชิ้นพอดีทานลงไป คนให้เข้ากัน ก็ตั้งกระทะและทอดได้เลย อร่อยลงตัว เคี้ยวกรุบ ๆ ทุกคำแน่นอน ลองทำกันได้เลย สำหรับช่องทางของ เว็บสอนทำอาหาร ที่ถือว่าเป็นการรวบรวมเกี่ยวกับวิะีการทำและในส่วนของเมนูที่น่าทำกินมา
Category: อาหารทั่วไป
วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน หอมหวานมันรสกลมกล่อม พร้อมเผยวิธีการทำ
วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน เป็นเมนูขนมหวานที่แสนอร่อยสุด ๆ ยิ่งกินแบบแช่เย็นจะประทับใจมาก มีความฟินสุด ๆ แน่นอน ทำให้วันนี้จะมาแนะนำถึงวิธีการทำ ที่สามารถต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้เลย ได้เคี้ยวเนื้อวุ้นที่มีความหอม ได้กลิ่นมะพร้าว มีเนื้อมะพร้าวอ่อนผสมอยู่ รสชาติหวานออกเค็มนิด ๆ เพื่อตัดความมันของกะทิ ไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป แล้วที่สำคัญเลยต้นทุนต่ำ ใครที่อยากนำไปสูตรไปขาย จะต้องไม่พลาดกันแล้ว ส่วนผสมและวิธีการทำ วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน ส่วนผสม น้ำมะพร้าวอ่อน ผงวุ้น หัวกะทิ เนื้อมะพร้าวอ่อน น้ำเปล่า น้ำตาลทราย เกลือป่น วิธีการทำ เริ่มแรกจะต้องมีการนำผงวุ้นมาเทลงใส่ในน้ำเปล่า แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นให้ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วทำการใส่ลงในหม้อ แล้วตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนลงไปได้เลย คนให้เข้ากันอยู่ตลอด ให้เนื้อวุ้นรู้สึกว่าละลายเข้าด้วยกันดีแล้ว จะต้องไม่มีผงวุ้นที่เกิดขึ้นติดกันแบบจุด ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป เกลือป่นนิดหน่อย คนให้เข้ากันได้ดี ตามด้วยใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปได้เลย รอให้เดือด ต่อมาใส่หัวกะทิลงไป เคี่ยวไปเรื่อย ๆ เมื่อเริ่มเดือดแล้วให้ปิดไฟ เทใส่ถาด หรือใส่ถ้วยพิมพ์ตามต้องการได้เลย เมื่อเซตตัวแล้วให้ตัดเป็นชิ้น…
ขนมศิลาอ่อน ขนมสูตรโบราณแสนอร่อย พร้อมเผยวิธีการทำง่าย ๆ
ขนมศิลาอ่อน เป็นชื่อที่เรียกกันในภาคเหนือ แต่มีความคล้ายกับขนมในภาคกลาง จะเรียกกันว่าขนมเปียกปูน โดยมีความอร่อย หอมลงตัวสุด ๆ ในความต่างกันคือ ตัวขนมศิลาจะมีกะทิเป็นส่วนผสม แต่เปียกปูนไม่มี ถ้าหากว่าใครสนใจทำ มาเข้าครัวทำไปพร้อมกันได้เลย ส่วนผสมและวิธีการทำ ขนมศิลาอ่อน ส่วนผสม ข้าวสารเจ้า แป้งเท้ายายม่อม น้ำปูนใส น้ำกะทิ ใบเตย น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ วิธีการทำ เริ่มแรกจะต้องมีการเตรียมน้ำปูนใสกันก่อน แล้วจากนั้นให้หมักน้ำปูนใสเอาไว้ประมาณ 3 วัน เพื่อเตรียมมาทำขนมกันต่อไป ต่อมาเป็นการหมักข้าวสารเจ้าเข้าไปอยู่ในน้ำปูนใส โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วให้นำมาโม่ได้เลย เพื่อที่จะได้แป้งข้าวเจ้าออกมา เสร็จแล้วให้พักเอาไว้ เพื่อที่จะมาทำใบเตยกันต่อ โดยให้เอาใบเตยมาล้างทำความสะอาด แล้วนำมาปั่นได้เลย ใช้แต่น้ำ นำกากออกไปให้หมด เสร็จแล้วพักไว้ ต่อมาให้ทำการผสมแป้ง โดยนำแป้งข้าวเจ้ามาผสมกับน้ำใบเตยได้เลย ตามด้วยน้ำกะทิ ผสมให้เข้ากันแลยเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วนำตั้งกระทะ โดยนำแป้งที่ผสมไว้มาเคี่ยวโดยใช้ไฟปานกลาง เสร็จแล้วใส่น้ำตาลทรายตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวให้เข้ากันจนได้ที่ ให้มีความเหนียว เสร็จแล้วให้เทใส่พิมพ์ได้เลย พักให้เย็น แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นที่พอดี แล้วโรยด้วยมะพร้าวขูดที่เตรียมเอาไว้ ขนมศิลาอ่อนกับเคล็ดลับความอร่อย…
แชร์สูตรวิธีทำครบจบในที่เดียวกับเมนูชื่อดัง มักกะโรนีอบชีส
ใครที่เป็นสายเมนูอิตาเลี่ยนหรือเป็นสาวกคนรักชีส ทางเราเชื่อว่าเพื่อนๆต้องชอบเมนูนี้แน่นอนค่ะกับเมนู มักกะโรนีอบชีส เพราะเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นเมนูอิตาเลี่ยนที่รวมตัวระหว่างสาวกคนรักพาสต้ากับสาวกคนรักชีสเข้าด้วยกันเลยทีเดียว เมื่อทั้งสองเมนูมารวมตัวกันจึงเกิดเป็นความอร่อยที่ปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ เมื่อเราทานอะไรเผ็ดๆหรือรสชาติอื่นๆมาบ่อยๆ บางทีร่างกายเราก็ต้องการรสชาตินัวๆมาเติมเต็มบ้าง นั่นก็คือรสชาติของชีสนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้ทางเราจึงจัดเตรียมเมนูมักกะโรนีอบชีสมาฝากเพื่อนๆกัน เชื่อว่าคงมีใครหลายคนรอคอยเมนูนี้กันอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำง่ายแค่ไหนเราไปติดตามกันดูเลยดีกว่าค่ะ มักกะโรนีอบชีส เมนูยอดนิยมเพียงแค่มีไมโครเวฟก็ทานได้ สำหรับใครที่อยากลองทำเมนู มักกะโรนีอบชีส แล้วคิดว่าอาจจะต้องเตรียมวัตถุดิบเยอะหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขั้นตอนมากมาย ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะ วัตถุดิบของเมนูนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไปได้เลย อีกทั้งยังเพียงแค่ใช้แค่ไมโครเวฟในการทำเท่านั้น ซึ่งสำหรับขั้นตอนการทำเมนูมักกะโรนีอบชีสนั้นให้เริ่มจากการเตรียม เส้นมักกะโรนี น้ำเปล่า นมข้นจืด เชดด้าชีส ชีสแผ่น เกลือ และพริกไทยค่ะ สำหรับวิธีการทำนั้นให้เพื่อนๆเริ่มจากการนำเส้นมักกะโรนีใส่พร้อมกับน้ำเปล่าในภาชนะที่ทนความร้อนได้แล้วนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 5 นาทีค่ะหรือจนเส้นสุก จากนั้นเมื่อเสร็จแล้วก็ทำการเทน้ำเปล่าออกและนำ เชดด้าชีส ชีสแผ่น นมข้นจืด เกลือ และพริกไทย ผสมเข้ากับเส้นมักกะโรนีผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นทำการนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 2 นาที เมื่อเสร็จแล้วก็ทำการโรยหน้าด้วยเชดด้าชีสปิดท้ายอีกครั้งตามขนาดที่ชอบได้เลยค่ะ และนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 1-2 นาที เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูมักกะโรนีอบชีสแล้วล่ะค่ะ สามารถโรยพริกไทยดำปิดท้ายหรือออริกาโน่เพื่อเพิ่มความหอมให้กับเจ้าตัวมักกะโรนีอบชีสก็ได้นะคะ เพื่อนๆอย่าลืมลองนำวิธีสุดง่ายจากเราไปลองทำตามกันดูนะคะ สามารถติดตาม เว็บสอนทำอาหาร ที่มาพร้อมกับวิธีการทำอาหารที่มากมาย
น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้ สดชื่น หอมหวาน ดีต่อสุขภาพ
น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้ เป็นเมนูที่อร่อย เมื่อดื่มแล้วจะสดชื่นมาก มีความหวานอมเปรี้ยวจากสตรอเบอรี่ แล้วยังมีความละมุนจากโยเกิร์ตอีกด้วย ที่สำคัญเลยดีต่อสุขภาพแน่นอน ถ้าหากว่าใครที่สนใจ มาลองทำตามกันได้เลย ส่วนผสมและวิธีการทำ น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้ ส่วนผสม สตรอเบอรี่แช่งแข็ง สตรอเบอรี่สด น้ำเชื่อม โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ซอสสตรอเบอรี่ที่เอาไว้ราด น้ำเชื่อม น้ำเปล่า วิธีการทำ ให้เริ่มจากการน้ำแข็งมาใส่ลงในเครื่องปั่นได้เลย เสร็จแล้วนำสตรอเบอรี่แช่แข็ง สตรอเบอรี่สด น้ำเชื่อมใส่ลงไป ปั่นให้เข้ากันพอประมาณ แล้วใส่โยเกิร์ตลงไปได้เลย ปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นให้นำแก้วมาใส่โยเกิร์ตลงไป แล้วเทน้ำสตรอเบอรี่ปั่นลงไปในแก้ว ตามด้วยราดซอสที่เตรียมไว้ นำลูกสตรอเบอรี่สดมาวางไว้ด้านบน เพื่อเพิ่มความน่าดื่มมากยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้พร้อมเสิร์ฟแล้ว น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้กับประโยชน์เกินคาด ประโยชน์ที่น่าสนใจของสตรอเบอรี่กันก่อน ช่วยบำรุงสายตาได้ดีมาก ไม่ให้เกิดความเสื่อมสภาพไปกว่าเดิม เพราะยิ่งอายุมากขึ้น สายตาจะยิ่งเสื่อมลงไปกว่าเดิม มีวิตามินอีกหลายชนิดมาก ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นที่มีประสิทธิภาพกับจอประสาทตา ต่อมาเป็นการเพิ่มการทำงาน และบำรุงสมอง ลดความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อได้ดีมาก รวมไปถึงเส้นประสาท สามารถป้องกันการเกิดโรคหวัด ภูมิแพ้ได้ดี เพราะมีวิตามินซีสูง สามารถช่วยบำรุงผิว ทำให้ดูมีความเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญเลยยังเป็นเหมือนยาระบายอ่อน ๆ ด้วย ระบบขับถ่ายจะดีขึ้นประโยชน์ของโยเกิร์ต แก้ท้องผูก แล้วยังช่วยในการควบคุมน้ำหนัก…
สูตรเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง ปรุงเครื่องจัดจ้าน เส้นหนี่ยวอร่อย
หิวๆๆๆๆทำอะไรกินดี คิดไม่ออกมาลองเมนูนี้เลย เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง ผัดหมี่สุดเด็ด ครบเครื่องจัดจ้าน กุ้งตัวโตๆฟินเต็มคำ ผัดกับเส้นหมี่เหนียวนุ่มโดนใจ และปิดท้ายด้วยยอดกระเฉดแสนอร่อยที่กรอบถูกใจสุดๆ นอกจากนี้วิธีทำก็แสนง่ายและไม่ต้องใช้อะไรเยอะ คุณแม่บ้านมื้อใหม่สามารถทำตามได้แน่นอน รสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดจัดจ้าน กินได้ไม่เบื่อ ฉะนั้นใครอยากหาเมนูเส้นที่ทั้งเด็ดและแซ่บก็ต้องห้ามพลาดเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้งจานนี้กันเลย วิธีทำ เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง เมนูเส้นที่ทำง่ายอย่าบอกใคร แถมอร่อยจัดจ้านมากๆ วัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ทำเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง เส้นหมี่ 1 ห่อ ลวกพอสุก กุ้ง 6-7 ตัว แกะเปลือก เอาขี้เอาหัวออก พร้อมทำความสะอาดเรียบร้อย พริกสดตามชอบ กระเทียม 5-6 กลีบ ผักกระเฉด 200 กรัม ล้างสะอาด เอาเฉพาะยอดอ่อนนะคะ น้ำพริกเผา 1 กับ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุง ซอสหอยนางรม น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำเปล่าสะอาด น้ำมันพืช วิธีทำเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง ขั้นตอนแรกนั้นก็ให้เราตั้งกระทะใช้ไฟกลางพร้อมเทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย จากนั้นโขลกพริกและกระเทียมพอละเอียดก็ตักลงไปเจียวในกระทะ…
แกงบ่าน้ำ ของเด็ดในเมืองเหนือ อร่อยจนต้องบอกต่อ
ทุกคนเคยได้ยินชื่ออาหารนี้หรือไม่ นั่นก็คือ แกงบ่าน้ำ แน่นอนว่าบางคนยังไม่รู้จักเลยว่า บ่าน้ำ คืออะไร มันก็คือน้ำเต้าอ่อน ที่เป็นผักชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับแตงกวา หรือฟักแฟงนั่นเอง เรียกได้ว่าถ้าหากคุณนำมาแกงแบบภาคเหนือ จะมีความอร่อยจนต้องบอกต่ออย่างแน่นอน โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะนำมาแกงใส่ปลาแห้ง แต่ก็สามารถใส่เนื้อสัตว์อื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยจุดเด่นของแกงชนิดนี้เลยก็คือ มีความนัว หอมถั่วเน่า หากได้มาชิมจะต้องติดใจอย่างแน่นอน แกงบ่าน้ำ เคล็ดลับความอร่อยในการเตรียมวัตถุดิบ แกงบ่าน้ำ เป็นแกงทางภาคเหนือที่มีความเอร็ดอร่อยเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนผสมสามารถหาได้อย่างง่ายดาย ตามท้องตลาด ที่ทุกคนมีเงินเพียงแค่ 50 บาท ก็สามารถรับประทานได้แล้ว โดยจะมีการเตรียมวัตถุดิบไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นก็คือ บ่าน้ำ (น้ำเต้าอ่อน) ปลาแห้ง ใบแมงลัก ผักชี ต้นหอม พริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือถั่วเน่า เห็นไหมว่าการเตรียมวัตถุดิบนั้น มันไม่ได้ยากเลย ที่จะทำให้ทุกคนประหยัดงบในการใช้จ่ายในเรื่องของค่ากินเป็นอย่างมาก ซึ่งถือได้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่มีข้าวของแพงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อได้เลยว่าบางคน ก็อาจจะยังไม่มีรายได้มากพอ จึงจำเป็นที่ต้องประหยัดงบประมาณ ในการใช้จ่ายแต่ละวัน แน่นอนว่าอาหารชนิดนี้จะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณได้อย่างแน่นอน…
แกงฮังเล เมนูอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย ได้รับอิทธิพลจากพม่า
แกงฮังเล คือเมนูที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติ ซึ่งเข้ามาจากประเทศพม่า แต่ทว่าอาหารเมนูนี้ในประเทศไทยนั้นได้รู้จักกันมาจากแถบภาคเหนือ ด้วยความอร่อยและรสชาติที่ไม่เหมือนกับเมนูอื่น จึงทำให้มีการแพร่กระจายความอร่อยไปยังทั่วประเทศ เป็นอีกหนึ่งเมนูของภาคเหนือที่เมื่อได้มีโอกาสไปเที่ยวแล้วก็ควรจะหารับประทานจากต้นตำหรับนั่นเอง โดยรสชาติจะเด่นไปทางเค็มและเปรี้ยว แต่เชื่อว่าท่านที่จะไม่เคยลองเมื่อได้ชิมแล้วจะต้องชอบมากแน่นอน วิธีการทำเมนู แกงฮังเล ส่วนผสมนั้นอาจจะมีเยอะนิดหน่อย การทำอาจจะยุงยากเล็กน้อย แต่รสชาติจะคุ้มค่ามาก ๆ โดยวัตถุดิบที่ใช้ก็มีดังนี้ เครื่องปรุงรสทั่วไป เกลือ น้ำซุป น้ำมะขามเปียก พริกแกงเผ็ด ผงฮังเล เนื้อหมูหรือขาหมูก็ได้ หัวหอมซอย ขิงซอย หากเตรียมพร้อมหมดแล้วก็ไปเริ่มทำกันเลยดีกว่า ขั้นตอนการทำอาจจะมีความซับซ้อนอยู่บ้าง โดยขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการหมักหมู นำผงฮังเล เครื่องปรุง เช่น น้ำตาลปี๊บ ซีอิ้วดำและขาว พริกแกงเผ็ด น้ำปลา ทั้งหมดนี้ตำในครกให้ละเอียดและเข้ากันทั้งหมด จากนั้นก็นำมาหมักกับเนื้อหมูที่เตรียมไว้ ระหว่างการรอหมักหมูก็ให้มาทำน้ำซุป ซึ่งจะเริ่มจากตั้งหม้อใส่น้ำรอจนเดือด ให้น้ำขิงกระเทียม หัวหอม ลงไปในหม้อ ในน้ำตาลเล็กน้อย เมื่อเริ่มมีกลิ่นหอมบ้างแล้วก็นำหมูที่หมักลงไปทั้งหมด ซึ่งจะต้องนำลงไปพร้อมกับเครื่องที่หมักไว้ด้วย จากนั้นก็เคี้ยงจนกว่าหมูจะนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ แกงฮังเลกับเคล็ดลับความอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ก็มาจากการเลือกใช้วัตถุที่มีคุณภาพ เลือกเนื้อหมูที่สด เนื้อเน้น ไม่มีกลิ่นเสีย หากเป็นขาหมูก็ควรทำการเผาเพื่อลอกขนออกไปให้หมดก่อน แน่นอนว่าตอนหมักก็ควรที่จะทิ้งไว้ขั้นต่ำ 40-50…
แกงเลียงกุ้งสด สรรพคุณดีต่อสุขภาพ ดีต่อคุณแม่หลังคลอด
แกงเลียงกุ้งสด เป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ มีความหอมอร่อยของเครื่องสมุนไพร ยิ่งเป็นคุณแม่หลังคลอดจะต้องลองเมนูนี้กัน ช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี บำรุงเลือด และขับของเสียออกมาด้วย แล้วที่สำคัญมีขั้นตอนการทำไม่ยาก มาพร้อมเคล็ดลับความอร่อยลงตัวสุด ๆ วิธีการทำเมนู แกงเลียงกุ้งสด ส่วนผสม กุ้งขาว ผักต่าง ๆ จะมีบวบ เห็ดฟาง เห็ดโคน ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง ใบแมงลัก กะปิ กุ้งแห้ง หอมแดง พริกไทย พริกแห้ง เครื่องปรุงรสชาติจะมีน้ำปลา และเกลือ ขั้นตอนการทำ เริ่มจากการเตรียมผักก่อน โดยการนำบวบมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ ฟักทองมาหั่นเป็นชิ้น และข้าวโพดมาผ่าครึ่งตามแนวยาว เด็ดใบแมงลักออก แล้วทำการเตรียมแกะเปลือกกุ้งออก นำเส้นดำกลางหลักออกได้เลย เสร็จแล้วไปล้างทำความสะอาดได้ พักเอาไว้ก่อน มีการโขรกพริกแกงเอาไว้ โดยตำพริกไทย พริกแห้ง กะปิ หอมแดง และกุ้งแห้ง มาในส่วนการเริ่มต้ม ให้นำน้ำเปล่ามาใส่ลงไป แล้วรอให้น้ำเดือด แล้วใส่เครื่องแกงที่โขรกเอาไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยผักต่าง ๆ ที่เตรียมไว้จะมี ฟักทอง บวบ…
น้ำสลัดอโวคาโด ไขมันต่ำ คลอเรสเตอรอลต่ำ
ด้วยความที่ในปัจจุบันนี้ หลายคนใส่ใจในเรื่องการเลือกซื้ออาหาร รวมถึงการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น และส่วนใหญ่ก็รับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ จึงเน้นในการทานผักเพิ่มมากขึ้น และสิ่งที่จะทำให้เราทานผักได้อร่อยมากขึ้น ก็คือการมีน้ำสลัดเข้ามา แถมที่สำคัญถ้าใครที่อยากควบคุมน้ำหนัก ดูแลสุขภาพ การทาน น้ำสลัดอโวคาโด ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่อร่อย และอโวคาโด ยังมีรสชาติคล้ายกับเนยอีกด้วย ถ้าหากรับประทานเข้าไป ก็จะมีประโยชน์กับร่างกาย เพราะว่าลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเหน็บชา โรคมะเร็ง และอโวคาโดนั้น ก็ยังมีประโยชน์ น้ำสลัดอโวคาโด วัตถุดิบและวิธีการทำ สำหรับวัตถุดิบที่จะใช้ในการทำน้ำสลัดอโวคาโด สิ่งที่เราขาดไม่ได้เลย นั่นก็คืออโวคาโด จะเป็นสายพันธุ์ไหนก็ได้ แต่ที่แนะนำคือ บัคคาเนีย เนื่องจากว่ามีลักษณะเนื้อสัมผัสที่แน่น และคล้ายเนยมากที่สุด และต่อมา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำตาลทราย มัสตาร์ด น้ำส้มสายชู นมข้นหวาน ไข่ไก่ ( ใช้เฉพาะไข่แดง ) พริกไทย เกลือ วิธีการทำคือ นำอโวคาโดไปปลอกเปลือก ใช้เฉพาะเนื้อ นำไปแช่แข็ง ใส่ไข่แดงประมาณ 2 ฟอง ใส่เกลือ และน้ำตาลทราย อย่างละ…