Category: อาหารหวาน

อากาศเริ่มหนาวแล้วเรามาทำเมนูเผ็ดๆร้อนๆ ซักถ้วยไว้กินสู้หนาวกันดีกว่าค่ะกับเมนู แกงหมูมะเขือ เมนูแกงแบบกะทิสุดเข้มข้น พริกแกงหอมๆ รสชาติจัดจ้าน แกงเผ็ดๆสุดกลมกล่อมที่ใส่หมูและเขือที่มีความเข้ากันมากๆ หมูนุ่มๆ มะเขือนิ่มๆ บวกกับน้ำแกงรสเด็ด บอกได้คำเดียวว่าฟินสุดๆ ยิ่งกินคู่กับข้าวสวยตอนร้อนๆ ความอร่อยยิ่งคูณล้าน น่าทานขนาดนี้ใครอยากซดน้ำแกงเผ็ดๆให้หายอยากก็ตามมาดูขั้นตอนการทำแกงหมูมะเขือกันได้เลย สูตร แกงหมูมะเขือ เผ็ดจัดจ้านอร่อยครบรส แถมขั้นตอนการทำก็ง่ายมากๆ  วัตถุดิบแกงหมูมะเขือ วิธีทำแกงหมูมะเขือ เริ่มแรกของการทำแกงหมูมะเขือนั้นก็ให้ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง เทน้ำมันลงไปเล็กน้อยก็ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดให้หอม ตามด้วยหัวกะทิใส่ลงไป จากนั้นผัดให้เข้ากันจนได้กลิ่นหอมฟุ้ง เมื่อกะทิแตกลดมันดีก็มะเขือเปราะลงไป ผัดให้เข้ากันจนเดือดอีกรอบก็ใส่เนื้อหมูลงไป พร้อมด้วยมะเขือพวง ผัดให้ให้เข้ากันก็ใส่น้ำเปล่าลงไป เร่งไฟแรงจากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลปิ๊บและน้ำปลา รอจนแกงเดือดอีกรอบก็ชอมรส เมื่อได้ตามชอบก็ใส่ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพาและพริกสดลงไป ปิดแก๊สและตักใส่ถ้วย แกงหมูมะเขือร้อนๆก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ แกงหมูมะเขือ เมนูแกงเผ็ดสุดเข้มข้นและจัดจ้านที่อร่อยลงตัวมากๆ น้ำแกงข้นๆกับหมูนุ่มๆและมะเขือนิ่มๆ ความอร่อยที่ครบเครื่องในการทำเพียงไม่กี่ขั้นตอน อร่อยทำง่ายและเผ็ดร้อนครบรส ใครอยากหาเมนูเผ็ดๆแบบน้ำๆสักถ้วยไว้กินในครอบครัวต้องเมนูแกงถ้วยนี้กันเลย สามารถติดตาม เว็บสอนทำอาหาร ที่มาพร้อมเมนูขึ้นชื่อที่กินเพลินๆมาก

          ถ้าพูดถึงของหวานที่เป็นที่เลื่องลือมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกก็ต้องไม่พลาดกับเมนู บิงซู เลยล่ะค่ะ เมนูบิงซู มาจากคำว่า บิง ในภาษาเกาหลีที่แปลว่า น้ำแข็ง และซู ที่แปลว่าน้ำ พอมารวมกันจึงแปลว่าน้ำแข็งใสนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าในยุคนึงบิงซูถือเป็นเมนูที่หันไปทางไหนก็ต้องเจอ ร้านทุกร้านแทรกซึมเมนูของหวานชนิดนี้เข้ามาตลอด มีหลากหลายรสชาติให้เลือกทานไม่ว่าจะเป็น บิงซูเมล่อน บิงซูสตอร์เบอร์รี่ บิงซูช็อคโกแลต เรียกได้ว่าด้วยความหลากหลายของรสชาติ และเกล็ดน้ำแข็งที่นุ่มละมุนต่างจากน้ำแข็งใสธรรมดา ทานควบคู่กับนมข้นและผลไม้นั้นอร่อยไม่ธรรมดาสุดๆค่ะ วันนี้ทางเราได้รวบรวมสูตรเมนูบิงซูจากเกาหลีแบบง่ายๆมาแจกเพื่อนๆกัน เพราะฉะนั้นเราอย่ารอช้า ตามไปดูสูตรวิธีการทำเมนูบิงซูกันเลยค่ะ วิธีทำเมนู บิงซู อร่อยปังไม่ใช่น้ำแข็งใสธรรมดา           สำหรับใครที่อยากทำเมนู บิงซู ขั้นตอนแรกให้เพื่อนๆเตรียมอุปกรณ์และส่วนผสมเหล่านี้ก่อนค่ะ นมข้นหวาน นมสดจืด สตอร์เบอร์รี่สด ซอสสตอร์เบอร์รี่ ขั้นตอนแรกให้ทำการนำนมข้นและนมสดจืดมาผสมเข้ากันอย่างดี จากนั้นนำไปแช่ในช่องฟรีสทิ้งไว้จนส่วนผสมแข็ง ต่อมาทำการนำสตอร์เบอร์รี่กับน้ำตาลทรายผสมเคล้าเข้าด้วยกัน จากนั้นทำการนำนมที่แช่ไว้มาจัดใส่ในจานให้เรียบร้อย ทำการนำสตอร์เบอร์รี่ตกแต่งทับให้สวยงาม หรือใส่ทอปปิ้งได้ตามใจชอบได้เลยค่ะ ปิดท้ายด้วยราดนมข้นหวานและซอสสตอร์เบอร์รี่เพื่อเพิ่มรสชาติกลมกล่อม จริงๆแล้วใครที่ชื่นชอบรสชาติอื่นๆก็สามารถทำวิธีตามเราได้เลยนะคะ แต่เพียงแค่เปลี่ยนส่วนผสมเป็นผลไม้อื่นๆตามชอบหรือขนมทอปปิ้งที่ชอบได้เลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบทานบิงซูก็สามารถนำวิธีง่ายๆนี้ไปลองทำดูนะคะ ไม่ต้องซื้อเครื่องปั่นน้ำแข็งก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันค่ะ อย่าลืมนำไปลองทำตามกันดูนะคะ สามารถติดตาม เว็บสอนทำอาหาร ที่มาพร้อมกับวิธีการทำอาหารที่มากมาย

ตำข้าวโพด เมนูแซ่บนัวที่คุณก็ทำได้ หนึ่งในเมนูตำที่อร่อยเด็ดไม่แพ้ใคร วิธีการทำก็ง่ายมากๆ แซ่บๆนัวๆแบบไม่จำเจ ใครเบื่อมะละกอแล้วลองหันมาทำตำแบบข้าวโพดดู ด้วยข้าวโพดที่มีความหวานในตัว มาตำแบบแซ่บๆที่มีทั้งความเผ็ด ความนัว เปรี้ยวและเค็ม ลงตัวมากๆ ยิ่งใส่ไร่เค็มเพิ่มเข้าไปยิ่งนัวยิ่งมันอร่อย กินเพลินๆ เด็กๆก็ทานได้ กินได้ทั้งครอบครัว ดังนั้นใครอยากหาเมนูตำเด็ดๆนัวก็ต้องห้ามพลาดตำข้าวโพดจานนี้เลย สูตร ตำข้าวโพด อร่อยในพริบตา เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน! วัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ในการทำตำข้าวโพด วิธีทำตำข้าวโพด สำหรับขั้นตอนการทำ ตำข้าวโพด นั้นเริ่มแรกก็ให้เราเราโขลกพริกสดกับกระเทียมก่อน โขลกพอแหลกก็ใส่มะเขือเทศและถั่วฝักยาวที่เตรียมไว้ลงไป ตำพอแหลกก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา น้ำมะนาวและผงนัว ตำคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันก็ใส่ข้าวโพดที่เราเตรียมไว้ลงไป พร้อมด้วยไข่เค็มและแครอทขูด ตำให้ทุกอย่างเข้ากันดี ชิมรสชาติ เมื่อได้ตามต้องการก็ตักใส่จาน แค่นี้ตำข้าวโพดก็พร้อมทานค่ะ ตำข้าวโพดเสิร์ฟคู่กับผักสด ไก่ย่างและข้าวเหนียวลงตัวมากๆ เมนูตำสุดเด็ดที่เด็กๆก็กินได้ ผู้ใหญ่ก็รักเลย อีกหนึ่งเมนูตำสำหรับคนเบื่อมะละกอที่ต้องไปลองให้ได้ แซ่บๆนัวๆ มีความหวานจากข้าวโพดในตัวที่คลุกเคล้าไปกับน้ำตำ อร่อยแซ่บสุดๆ ที่สำคัญวิธีการทำก็ไม่ยากเลย แค่เอาวัตถุดิบต่างๆมาตำให้เข้ากันแล้วปรุงรสเราก็ได้อาหารแซ่บๆหนึ่งจานแล้ว ดังนั้นใครเป็นสายส้มตำ สายอีสานหรือสายแซ่บก็อย่าลืมลองไปทำกันดูนะคะ สามารถติดตาม เว็บสอนทำอาหาร ที่มาพร้อมเมนูขึ้นชื่อที่กินเพลินๆมาก

วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน เป็นเมนูขนมหวานที่แสนอร่อยสุด ๆ ยิ่งกินแบบแช่เย็นจะประทับใจมาก มีความฟินสุด ๆ แน่นอน ทำให้วันนี้จะมาแนะนำถึงวิธีการทำ ที่สามารถต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้เลย ได้เคี้ยวเนื้อวุ้นที่มีความหอม ได้กลิ่นมะพร้าว มีเนื้อมะพร้าวอ่อนผสมอยู่ รสชาติหวานออกเค็มนิด ๆ เพื่อตัดความมันของกะทิ ไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป แล้วที่สำคัญเลยต้นทุนต่ำ ใครที่อยากนำไปสูตรไปขาย จะต้องไม่พลาดกันแล้ว ส่วนผสมและวิธีการทำ วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน ส่วนผสม น้ำมะพร้าวอ่อน ผงวุ้น หัวกะทิ เนื้อมะพร้าวอ่อน น้ำเปล่า น้ำตาลทราย เกลือป่น วิธีการทำ เริ่มแรกจะต้องมีการนำผงวุ้นมาเทลงใส่ในน้ำเปล่า แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นให้ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วทำการใส่ลงในหม้อ แล้วตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนลงไปได้เลย คนให้เข้ากันอยู่ตลอด ให้เนื้อวุ้นรู้สึกว่าละลายเข้าด้วยกันดีแล้ว จะต้องไม่มีผงวุ้นที่เกิดขึ้นติดกันแบบจุด ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป เกลือป่นนิดหน่อย คนให้เข้ากันได้ดี ตามด้วยใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปได้เลย รอให้เดือด ต่อมาใส่หัวกะทิลงไป เคี่ยวไปเรื่อย ๆ เมื่อเริ่มเดือดแล้วให้ปิดไฟ เทใส่ถาด หรือใส่ถ้วยพิมพ์ตามต้องการได้เลย เมื่อเซตตัวแล้วให้ตัดเป็นชิ้น…

บัวลอยแก้ว เป็นขนมหวานที่เรียกได้ว่ายอดนิยมอย่างมาก มีความเหนียวนุ่ม อร่อย กะทิเข้มข้น มีความหอม หวาน มัน ชื่นใจ ถ้าหากว่าสนใจทำเมนูนี้ ต้องไม่พลาดกันแล้ว ส่วนผสมและวิธีการทำ บัวลอยแก้ว ส่วนผสม แป้งมัน น้ำใบเตยฟักทอง น้ำอัญชัน และอื่น ๆ ตามต้องการ เพื่อที่จะมาทำสีให้สวยฟักทอง น้ำอัญชัน และอื่น ๆ ตามต้องการ เพื่อที่จะมาทำสีให้สวย น้ำกะทิ น้ำอุ่น หัวกะทิ หางกะทิ เม็ดสาคู เนื้อมะพร้าวอ่อน เผือกหั่น น้ำตาลปี๊บวิธีการทำ เริ่มแรกจะต้องมีการนำเม็ดสาคูมาเตรียมไว้ก่อน ทำการต้มน้ำเปล่าให้เดือด เสร็จแล้วให้นำไปต้มใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เมื่อได้ที่แล้วให้นำไปแช่ในน้ำเย็นจัดได้เลย แช่เอาไว้ประมาณ 1 คืน ต่อมาเมื่อได้แล้ว ให้นำสาคูไปต้มอีกครั้งหนึ่ง ประมาณ 10 นาที จะได้สาคูที่อร่อย แล้วน่ากินสุด ๆ เสร็จแล้วทำการแช่น้ำเย็นเอาไว้ก่อน ต่อมาให้นำเผือก และฟักทองมาปอกเปลือก ทำความสะอาดให้ดี…

ขนมศิลาอ่อน เป็นชื่อที่เรียกกันในภาคเหนือ แต่มีความคล้ายกับขนมในภาคกลาง จะเรียกกันว่าขนมเปียกปูน โดยมีความอร่อย หอมลงตัวสุด ๆ ในความต่างกันคือ ตัวขนมศิลาจะมีกะทิเป็นส่วนผสม แต่เปียกปูนไม่มี ถ้าหากว่าใครสนใจทำ มาเข้าครัวทำไปพร้อมกันได้เลย ส่วนผสมและวิธีการทำ ขนมศิลาอ่อน ส่วนผสม ข้าวสารเจ้า แป้งเท้ายายม่อม น้ำปูนใส น้ำกะทิ ใบเตย น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ วิธีการทำ เริ่มแรกจะต้องมีการเตรียมน้ำปูนใสกันก่อน แล้วจากนั้นให้หมักน้ำปูนใสเอาไว้ประมาณ 3 วัน เพื่อเตรียมมาทำขนมกันต่อไป ต่อมาเป็นการหมักข้าวสารเจ้าเข้าไปอยู่ในน้ำปูนใส โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วให้นำมาโม่ได้เลย เพื่อที่จะได้แป้งข้าวเจ้าออกมา เสร็จแล้วให้พักเอาไว้ เพื่อที่จะมาทำใบเตยกันต่อ โดยให้เอาใบเตยมาล้างทำความสะอาด แล้วนำมาปั่นได้เลย ใช้แต่น้ำ นำกากออกไปให้หมด เสร็จแล้วพักไว้ ต่อมาให้ทำการผสมแป้ง โดยนำแป้งข้าวเจ้ามาผสมกับน้ำใบเตยได้เลย ตามด้วยน้ำกะทิ ผสมให้เข้ากันแลยเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วนำตั้งกระทะ โดยนำแป้งที่ผสมไว้มาเคี่ยวโดยใช้ไฟปานกลาง เสร็จแล้วใส่น้ำตาลทรายตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวให้เข้ากันจนได้ที่ ให้มีความเหนียว เสร็จแล้วให้เทใส่พิมพ์ได้เลย พักให้เย็น แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นที่พอดี แล้วโรยด้วยมะพร้าวขูดที่เตรียมเอาไว้ ขนมศิลาอ่อนกับเคล็ดลับความอร่อย…

น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้ เป็นเมนูที่อร่อย เมื่อดื่มแล้วจะสดชื่นมาก มีความหวานอมเปรี้ยวจากสตรอเบอรี่ แล้วยังมีความละมุนจากโยเกิร์ตอีกด้วย ที่สำคัญเลยดีต่อสุขภาพแน่นอน ถ้าหากว่าใครที่สนใจ มาลองทำตามกันได้เลย ส่วนผสมและวิธีการทำ น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้ ส่วนผสม สตรอเบอรี่แช่งแข็ง สตรอเบอรี่สด น้ำเชื่อม โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ซอสสตรอเบอรี่ที่เอาไว้ราด น้ำเชื่อม น้ำเปล่า วิธีการทำ ให้เริ่มจากการน้ำแข็งมาใส่ลงในเครื่องปั่นได้เลย เสร็จแล้วนำสตรอเบอรี่แช่แข็ง สตรอเบอรี่สด น้ำเชื่อมใส่ลงไป ปั่นให้เข้ากันพอประมาณ แล้วใส่โยเกิร์ตลงไปได้เลย ปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นให้นำแก้วมาใส่โยเกิร์ตลงไป แล้วเทน้ำสตรอเบอรี่ปั่นลงไปในแก้ว ตามด้วยราดซอสที่เตรียมไว้ นำลูกสตรอเบอรี่สดมาวางไว้ด้านบน เพื่อเพิ่มความน่าดื่มมากยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้พร้อมเสิร์ฟแล้ว น้ำสตรอเบอรี่โยเกิร์ตสมูทตี้กับประโยชน์เกินคาด ประโยชน์ที่น่าสนใจของสตรอเบอรี่กันก่อน ช่วยบำรุงสายตาได้ดีมาก ไม่ให้เกิดความเสื่อมสภาพไปกว่าเดิม เพราะยิ่งอายุมากขึ้น สายตาจะยิ่งเสื่อมลงไปกว่าเดิม มีวิตามินอีกหลายชนิดมาก ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นที่มีประสิทธิภาพกับจอประสาทตา ต่อมาเป็นการเพิ่มการทำงาน และบำรุงสมอง ลดความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อได้ดีมาก รวมไปถึงเส้นประสาท สามารถป้องกันการเกิดโรคหวัด ภูมิแพ้ได้ดี เพราะมีวิตามินซีสูง สามารถช่วยบำรุงผิว ทำให้ดูมีความเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญเลยยังเป็นเหมือนยาระบายอ่อน ๆ ด้วย ระบบขับถ่ายจะดีขึ้นประโยชน์ของโยเกิร์ต แก้ท้องผูก แล้วยังช่วยในการควบคุมน้ำหนัก…

หิวๆๆๆๆทำอะไรกินดี คิดไม่ออกมาลองเมนูนี้เลย เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง ผัดหมี่สุดเด็ด ครบเครื่องจัดจ้าน กุ้งตัวโตๆฟินเต็มคำ ผัดกับเส้นหมี่เหนียวนุ่มโดนใจ และปิดท้ายด้วยยอดกระเฉดแสนอร่อยที่กรอบถูกใจสุดๆ นอกจากนี้วิธีทำก็แสนง่ายและไม่ต้องใช้อะไรเยอะ คุณแม่บ้านมื้อใหม่สามารถทำตามได้แน่นอน รสชาติกลมกล่อม มีความเผ็ดจัดจ้าน กินได้ไม่เบื่อ ฉะนั้นใครอยากหาเมนูเส้นที่ทั้งเด็ดและแซ่บก็ต้องห้ามพลาดเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้งจานนี้กันเลย วิธีทำ เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง เมนูเส้นที่ทำง่ายอย่าบอกใคร แถมอร่อยจัดจ้านมากๆ วัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ทำเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง เส้นหมี่ 1 ห่อ ลวกพอสุก กุ้ง 6-7 ตัว แกะเปลือก เอาขี้เอาหัวออก พร้อมทำความสะอาดเรียบร้อย พริกสดตามชอบ กระเทียม 5-6 กลีบ ผักกระเฉด 200 กรัม ล้างสะอาด เอาเฉพาะยอดอ่อนนะคะ น้ำพริกเผา 1 กับ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุง  ซอสหอยนางรม น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำเปล่าสะอาด น้ำมันพืช วิธีทำเส้นหมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง ขั้นตอนแรกนั้นก็ให้เราตั้งกระทะใช้ไฟกลางพร้อมเทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย จากนั้นโขลกพริกและกระเทียมพอละเอียดก็ตักลงไปเจียวในกระทะ…

ใครเป็นสายสมูทตี้ต้องห้ามพลาด เพราะในวันนี้เราก็มีสูตรสมูทตี้ง่ายๆมาฝากทุกคนกันกับเมนูที่มีชื่อว่า สมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต เมนูสมูทตี้จากโยเกิร์ตและสตรอว์เบอร์รี่วัตถุดิบรสชาติเปรี้ยวที่ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ให้กับร่างกาย เพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อมเข้าไปชื่นอกชื่นใจมากๆ ปั่นรวมกันได้ได้รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆดื่มเพลินๆ สนชื่นสุดๆ นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องดื่มที่ทำง่ายและทำกินได้ทั้งบ้าน เด็กๆชอบใจผู้ใหญ่ชอบเลย ฉะนั้นใครไม่พลาดสมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตเครื่องดื่มแสนอร่อยแก้วนี้ก็ตามไปดูสูตรวิธีทำพร้อมกันกับเราได้เลย บอกต่อสูตร สมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต ทำง่าย อร่อยด้วย! วัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ทำสมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย สตรอว์เบอร์รี่ไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ เลือกเป็นสูตรเข้มข้นนะคะ สตรอว์เบอร์รี่ 5-7ลูก ล้างสะอาดและหั่นครึ่ง ใช้เป็นแบบแช่แข็งก็ได้ นมสด 10 มิลลิลิตร เครื่องปรุง น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะหรือตามความหวานที่ชอบ น้ำแข็ง 1 แก้ว เลือกเป็นหลอดเล็กนะคะ วิธีทำสมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต ขั้นตอนแรกก็ให้เราเตรียมเครื่องปั่นก่อน เมื่อเตรียมเสร็จก็นำสตรอว์เบอร์รี่ที่เตรียมไว้ลงไปปั่นในโถเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียดก็ใส่โยเกิร์ตตามลงไป เพิ่มรสชาติด้วยสตรอว์เบอร์รี่ไซรัปและน้ำเชื่อม จากนั้นปั่นต่อจนทุกอย่างเข้ากัน เติมนมลงไปและปั่นต่อ จากนั้นตามด้วยน้ำแข็งและปั่นทุกอย่างให้เข้ากันจนละเอียดเป็นเนื้อเดียว จัดใส่แก้วตกแต่งสวยงาม สมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตก็พร้อมดื่มแล้วค่ะ สมูทตี้สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต อีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มแสนถูกใจ ดื่มเพลินๆ อร่อยและสดชื่นอย่าบอกใคร ต้องลอง!! ต้องบอกเลยว่าใครที่เป็นสายสมูทตี้ต้องไปลองทำกันดูเลย ทำง่ายและรสชาติอร่อยชื่นใจแน่นอน…

     เชื่อว่าในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา หลายคนผันตัวเป็นเชฟทำอาหาร และแน่นอนว่าเมนูที่ทุกคนจะต้องทำเป็น  ก็คือ แกงจืดผักกาดดอง เพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่รู้ว่าจะทานอะไร เพียงแค่ในตู้เย็นมีผักกาดดอง กับซี่โครงหมู ก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้แล้ว และซี่โครงยังมีรสชาติที่หอม กลมกล่อมอีกด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเรานั้นได้เคี่ยว ไฟอ่อนๆ กำลังดี ก็จะเปื่อย นุ่ม เนื้อร่อนออกมาจากกระดูก ซึ่งเวลาทานเมื่อมีตัวผักกาดดองคู่กัน ที่มีรสชาติอร่อย หอมไม่แข็ง หรือไม่นิ่มจนเกินไป พร้อมกับน้ำซุปที่กลมกล่อม มีความใส กลิ่นหอมพริกไทย และรากผักชีตีขึ้นมา ก็จะทำให้เป็นอาหารมื้อหลัก ที่บอกได้เลยว่ารสชาติละมุน แกงจืดผักกาดดอง วิธีการเตรียมวัตถุดิบและขั้นตอนการทำ      วัตถุดิบให้เตรียมผักกาดดอง ซี่โครงหมู หมูสับ เต้าหู้ไข่ รากผักชี ซีอิ๊วขาว พริกไทย เกลือ ใช้วัตถุดิบเพียงแค่นี้ ก็สามารถทำแกงจืดผักกาดดอง ได้แล้ว ขั้นตอนของการปรุง นำน้ำเปล่าสะอาดต้มให้เดือด ใส่รากผักชีลงไป ปรุงรสน้ำซุปด้วย ซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทย หลังจากที่ด้รสชาติที่เราชอบอร่อย ให้ใส่ซี่โครงหมูลงไป ช้อนฟองออกจนน้ำใส หลังจากที่น้ำใส ปั้นหมูสับเป็นก้อนใส่ลงไป เติมผักกาดดองลงไป…