ปลา ทูน่าฟู หม้อ ทอดไร้ น้ำ มัน เป็นการรังสรรค์เมนูอร่อย แซ่บ แบบไม่ใช้น้ำมันในการทอด สายรักสุขภาพควรลองเลย ซึ่งวัตถุดิบและขั้นตอนการทำก็เรียบง่ายมาก หาซื้อวัตถุดิบได้ในเซเว่น ราคาเบากระเป๋า หลักสิบเท่านั้นเอง ได้ทั้งความอร่อย ไม่เปลืองเงินและมีประโยชน์ต่อร่างกาย บอกเลยว่าไม่ควรพลาดข้อมูลวิธีการทำต่อไปนี้เลย วิธี ปลา ทูน่าฟู หม้อ ทอดไร้ น้ำ มัน แบบง่ายสุด ก่อนอื่น ทุกคนก็ต้องไปเตรียมหาวัตถุดิบและอุปกรณ์ก่อน อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เป็นหม้อทอดไร้น้ำมันที่จะต้องมี และเลือกที่ผ่านมาตรฐาน และมีรายการอื่น ๆ ต่อไปนี้ ต่อมา เป็นขั้นตอนการทำปลา ทูน่าฟู หม้อ ทอดไร้ น้ำ มันที่หลายคนก็ตั้งตารอคอย ซึ่งการทำทุกคนนำปลาทูน่าออกจากกระป๋องมาก่อน และซับให้พอหมาด และทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ทานปลาทูน่าฟูหม้อทอดไร้ น้ำ มัน ดียังไง…? การทานปลา ทูน่าฟู หม้อ ทอดไร้ น้ำ มันไม่มีการใช้น้ำมันในการทอด จึงไม่มีไขมัน และปลาทูน่าวิตามิน โปรตีนสูงมาก…
Tag: เคล็ดลับความอร่อย
บัวลอยแก้ว ขนมหวานรสอร่อย เหนียวนุ่ม น้ำกะทิเข้มข้น หอมหวานชื่นใจ
บัวลอยแก้ว เป็นขนมหวานที่เรียกได้ว่ายอดนิยมอย่างมาก มีความเหนียวนุ่ม อร่อย กะทิเข้มข้น มีความหอม หวาน มัน ชื่นใจ ถ้าหากว่าสนใจทำเมนูนี้ ต้องไม่พลาดกันแล้ว ส่วนผสมและวิธีการทำ บัวลอยแก้ว ส่วนผสม แป้งมัน น้ำใบเตยฟักทอง น้ำอัญชัน และอื่น ๆ ตามต้องการ เพื่อที่จะมาทำสีให้สวยฟักทอง น้ำอัญชัน และอื่น ๆ ตามต้องการ เพื่อที่จะมาทำสีให้สวย น้ำกะทิ น้ำอุ่น หัวกะทิ หางกะทิ เม็ดสาคู เนื้อมะพร้าวอ่อน เผือกหั่น น้ำตาลปี๊บวิธีการทำ เริ่มแรกจะต้องมีการนำเม็ดสาคูมาเตรียมไว้ก่อน ทำการต้มน้ำเปล่าให้เดือด เสร็จแล้วให้นำไปต้มใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เมื่อได้ที่แล้วให้นำไปแช่ในน้ำเย็นจัดได้เลย แช่เอาไว้ประมาณ 1 คืน ต่อมาเมื่อได้แล้ว ให้นำสาคูไปต้มอีกครั้งหนึ่ง ประมาณ 10 นาที จะได้สาคูที่อร่อย แล้วน่ากินสุด ๆ เสร็จแล้วทำการแช่น้ำเย็นเอาไว้ก่อน ต่อมาให้นำเผือก และฟักทองมาปอกเปลือก ทำความสะอาดให้ดี…
แชร์สูตรวิธีทำครบจบในที่เดียวกับเมนูชื่อดัง มักกะโรนีอบชีส
ใครที่เป็นสายเมนูอิตาเลี่ยนหรือเป็นสาวกคนรักชีส ทางเราเชื่อว่าเพื่อนๆต้องชอบเมนูนี้แน่นอนค่ะกับเมนู มักกะโรนีอบชีส เพราะเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นเมนูอิตาเลี่ยนที่รวมตัวระหว่างสาวกคนรักพาสต้ากับสาวกคนรักชีสเข้าด้วยกันเลยทีเดียว เมื่อทั้งสองเมนูมารวมตัวกันจึงเกิดเป็นความอร่อยที่ปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ เมื่อเราทานอะไรเผ็ดๆหรือรสชาติอื่นๆมาบ่อยๆ บางทีร่างกายเราก็ต้องการรสชาตินัวๆมาเติมเต็มบ้าง นั่นก็คือรสชาติของชีสนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้ทางเราจึงจัดเตรียมเมนูมักกะโรนีอบชีสมาฝากเพื่อนๆกัน เชื่อว่าคงมีใครหลายคนรอคอยเมนูนี้กันอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำง่ายแค่ไหนเราไปติดตามกันดูเลยดีกว่าค่ะ มักกะโรนีอบชีส เมนูยอดนิยมเพียงแค่มีไมโครเวฟก็ทานได้ สำหรับใครที่อยากลองทำเมนู มักกะโรนีอบชีส แล้วคิดว่าอาจจะต้องเตรียมวัตถุดิบเยอะหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขั้นตอนมากมาย ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะ วัตถุดิบของเมนูนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไปได้เลย อีกทั้งยังเพียงแค่ใช้แค่ไมโครเวฟในการทำเท่านั้น ซึ่งสำหรับขั้นตอนการทำเมนูมักกะโรนีอบชีสนั้นให้เริ่มจากการเตรียม เส้นมักกะโรนี น้ำเปล่า นมข้นจืด เชดด้าชีส ชีสแผ่น เกลือ และพริกไทยค่ะ สำหรับวิธีการทำนั้นให้เพื่อนๆเริ่มจากการนำเส้นมักกะโรนีใส่พร้อมกับน้ำเปล่าในภาชนะที่ทนความร้อนได้แล้วนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 5 นาทีค่ะหรือจนเส้นสุก จากนั้นเมื่อเสร็จแล้วก็ทำการเทน้ำเปล่าออกและนำ เชดด้าชีส ชีสแผ่น นมข้นจืด เกลือ และพริกไทย ผสมเข้ากับเส้นมักกะโรนีผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นทำการนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 2 นาที เมื่อเสร็จแล้วก็ทำการโรยหน้าด้วยเชดด้าชีสปิดท้ายอีกครั้งตามขนาดที่ชอบได้เลยค่ะ และนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 1-2 นาที เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูมักกะโรนีอบชีสแล้วล่ะค่ะ สามารถโรยพริกไทยดำปิดท้ายหรือออริกาโน่เพื่อเพิ่มความหอมให้กับเจ้าตัวมักกะโรนีอบชีสก็ได้นะคะ เพื่อนๆอย่าลืมลองนำวิธีสุดง่ายจากเราไปลองทำตามกันดูนะคะ สามารถติดตาม เว็บสอนทำอาหาร ที่มาพร้อมกับวิธีการทำอาหารที่มากมาย
แกงบ่าน้ำ ของเด็ดในเมืองเหนือ อร่อยจนต้องบอกต่อ
ทุกคนเคยได้ยินชื่ออาหารนี้หรือไม่ นั่นก็คือ แกงบ่าน้ำ แน่นอนว่าบางคนยังไม่รู้จักเลยว่า บ่าน้ำ คืออะไร มันก็คือน้ำเต้าอ่อน ที่เป็นผักชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับแตงกวา หรือฟักแฟงนั่นเอง เรียกได้ว่าถ้าหากคุณนำมาแกงแบบภาคเหนือ จะมีความอร่อยจนต้องบอกต่ออย่างแน่นอน โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะนำมาแกงใส่ปลาแห้ง แต่ก็สามารถใส่เนื้อสัตว์อื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยจุดเด่นของแกงชนิดนี้เลยก็คือ มีความนัว หอมถั่วเน่า หากได้มาชิมจะต้องติดใจอย่างแน่นอน แกงบ่าน้ำ เคล็ดลับความอร่อยในการเตรียมวัตถุดิบ แกงบ่าน้ำ เป็นแกงทางภาคเหนือที่มีความเอร็ดอร่อยเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนผสมสามารถหาได้อย่างง่ายดาย ตามท้องตลาด ที่ทุกคนมีเงินเพียงแค่ 50 บาท ก็สามารถรับประทานได้แล้ว โดยจะมีการเตรียมวัตถุดิบไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นก็คือ บ่าน้ำ (น้ำเต้าอ่อน) ปลาแห้ง ใบแมงลัก ผักชี ต้นหอม พริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือถั่วเน่า เห็นไหมว่าการเตรียมวัตถุดิบนั้น มันไม่ได้ยากเลย ที่จะทำให้ทุกคนประหยัดงบในการใช้จ่ายในเรื่องของค่ากินเป็นอย่างมาก ซึ่งถือได้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่มีข้าวของแพงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อได้เลยว่าบางคน ก็อาจจะยังไม่มีรายได้มากพอ จึงจำเป็นที่ต้องประหยัดงบประมาณ ในการใช้จ่ายแต่ละวัน แน่นอนว่าอาหารชนิดนี้จะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณได้อย่างแน่นอน…
แกงฮังเล เมนูอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย ได้รับอิทธิพลจากพม่า
แกงฮังเล คือเมนูที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติ ซึ่งเข้ามาจากประเทศพม่า แต่ทว่าอาหารเมนูนี้ในประเทศไทยนั้นได้รู้จักกันมาจากแถบภาคเหนือ ด้วยความอร่อยและรสชาติที่ไม่เหมือนกับเมนูอื่น จึงทำให้มีการแพร่กระจายความอร่อยไปยังทั่วประเทศ เป็นอีกหนึ่งเมนูของภาคเหนือที่เมื่อได้มีโอกาสไปเที่ยวแล้วก็ควรจะหารับประทานจากต้นตำหรับนั่นเอง โดยรสชาติจะเด่นไปทางเค็มและเปรี้ยว แต่เชื่อว่าท่านที่จะไม่เคยลองเมื่อได้ชิมแล้วจะต้องชอบมากแน่นอน วิธีการทำเมนู แกงฮังเล ส่วนผสมนั้นอาจจะมีเยอะนิดหน่อย การทำอาจจะยุงยากเล็กน้อย แต่รสชาติจะคุ้มค่ามาก ๆ โดยวัตถุดิบที่ใช้ก็มีดังนี้ เครื่องปรุงรสทั่วไป เกลือ น้ำซุป น้ำมะขามเปียก พริกแกงเผ็ด ผงฮังเล เนื้อหมูหรือขาหมูก็ได้ หัวหอมซอย ขิงซอย หากเตรียมพร้อมหมดแล้วก็ไปเริ่มทำกันเลยดีกว่า ขั้นตอนการทำอาจจะมีความซับซ้อนอยู่บ้าง โดยขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการหมักหมู นำผงฮังเล เครื่องปรุง เช่น น้ำตาลปี๊บ ซีอิ้วดำและขาว พริกแกงเผ็ด น้ำปลา ทั้งหมดนี้ตำในครกให้ละเอียดและเข้ากันทั้งหมด จากนั้นก็นำมาหมักกับเนื้อหมูที่เตรียมไว้ ระหว่างการรอหมักหมูก็ให้มาทำน้ำซุป ซึ่งจะเริ่มจากตั้งหม้อใส่น้ำรอจนเดือด ให้น้ำขิงกระเทียม หัวหอม ลงไปในหม้อ ในน้ำตาลเล็กน้อย เมื่อเริ่มมีกลิ่นหอมบ้างแล้วก็นำหมูที่หมักลงไปทั้งหมด ซึ่งจะต้องนำลงไปพร้อมกับเครื่องที่หมักไว้ด้วย จากนั้นก็เคี้ยงจนกว่าหมูจะนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ แกงฮังเลกับเคล็ดลับความอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ก็มาจากการเลือกใช้วัตถุที่มีคุณภาพ เลือกเนื้อหมูที่สด เนื้อเน้น ไม่มีกลิ่นเสีย หากเป็นขาหมูก็ควรทำการเผาเพื่อลอกขนออกไปให้หมดก่อน แน่นอนว่าตอนหมักก็ควรที่จะทิ้งไว้ขั้นต่ำ 40-50…